สุราชุมชนนอนรอความตาย

เป็นที่ทราบกันในวงการสุรากลั่นว่า สุรากลั่นชุมชนเป็นเสมือนดั่งเสี้ยนเล็กๆ ที่ฝังตำอยู่ที่ส้นเท้าของกลุ่มทุนสุรากลั่นโรงใหญ่ แม้จะไม่กระทบกระเทือนสุขภาพถึงตาย แต่ก็ทำให้เกิดความรำคาญไม่น้อย ทั้งนี้เนื่องด้วยเสี้ยนหนามเหล่านี้มีอยู่เป็นจำนวนมาก หรืออาจจะเปรียบเป็นดอกหญ้าที่ปักตำเข้าไปในกางเกงเวลาเราเดินป่า มันมากมายจนเรารำคาญต้องคอยแกะออกให้หายเจ็บหายคัน และ ณ บัดนี้ กลุ่มทุนสุราโรงใหญ่กำลังจะแกะเสี้ยนและดอกหญ้าสุราชุมชนจำนวนมากที่มาแย่งตลาดสุรากลั่นให้หลุดออกจากฝ่าเท้าหรือชายกางเกง ด้วยยุทธการอันแยบยล

เพราะเหตุว่ารัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติของลุงตู่นี้ ท่านมีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในทุกๆ เรื่อง รวมทั้งการจัดระบบระเบียบสิ่งของที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยก็จะจัดให้เข้าระเบียบให้หมดในแบบของทหาร ทั้งหาบเร่แผงลอย ร้านค้ารุกล้ำที่ดินริมน้ำ และล่าสุดคงจะเป็นเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของสุรากลั่นชุมชน

ด้วยท่านคณะรัฐมนตรีได้รับฟัง (จากใคร) มาว่าสุรากลั่นชุมชนนั้น อาจมีปัญหาเรื่องคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน จะทำให้เกิดอันตรายกับประชาชน ตลอดจนทำให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม มีน้ำเสียทิ้งลงแม่น้ำลำคลองจากโรงกลั่นที่มีมากมายอยู่ทั่วประเทศ และมีการทำผิดกฎหมายไม่เป็นไปตามข้อกำหนด ซึ่งท่านก็อาจจะไม่ทราบรายละเอียด ว่ามันอยู่ใน ประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องวิธีการบริหารงานสุรา พ.ศ. 2546 (ฉบับที่ 4)

ดังนั้นท่านจึงมีคำสั่งจากคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เร่งรัดให้กระทรวงการคลังพิจารณาตรวจสอบบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยสุรา ว่ามีบทบัญญัติที่ครอบคลุมผู้ฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ประการใด และให้กำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาให้เกิดเป็นรูปธรรมเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค โดยให้กระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทยเร่งรัดตรวจสอบการผลิตสุราชุมชนให้มีมาตรฐานและไม่ผิดกฎหมายให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2558

หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2558 กรมสรรพสามิตจึงมีหนังสือสั่งการให้สรรพสามิตภาคทุกภาค และสรรพสามิตพื้นที่ทุกพื้นที่ เร่งรัดตรวจสอบโรงงานสุรากลั่นชุมชน เพื่อบังคับใช้กฎหมายควบคุมในการผลิตสุรากลั่นชุมชน และส่งข้อมูลการตรวจสอบไปยังกรมสรรพสามิตโดยด่วน

1431352166813

แม้จะไม่มีการเขียนไว้ในหนังสือฉบับดังกล่าว แต่มีข่าวจากกรมสรรพสามิตว่า มีคำสั่งชัดเจนมาว่า หากพบโรงกลั่นชุมชนแห่งใดทำผิด โดยเฉพาะหากมีแรงม้าเกิน 5 แรง ให้เพิกถอนใบอนุญาตสั่งปิดได้ทันที

ขณะนี้เผือกร้อนจึงตกอยู่กับอุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งจะต้องเป็นผู้ชี้เป็นชี้ตายว่า โรงกลั่นใดมีแรงม้าเกินกันบ้าง

เรื่องนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับผู้ผลิตสุรากลั่นชุมชน โดยเริ่มมีผู้ผลิตบางรายได้ติดต่อมาปรึกษาหารือว่าจะทำอย่างไรกันดี แต่บางรายก็ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจ คงเพราะคิดว่าแค่ย้ายเตาและมอเตอร์ออกจากโรงงานไปสักพัก พอเขาตรวจเสร็จก็ยกกลับเข้ามากลั่นต่อ เพียงเท่านี้เวลาเขามาตรวจแรงม้าเราก็ไม่เกินแล้ว แต่นี่เป็นเพียงการเอาตัวรอดในระยะสั้น เพราะหากผลการตรวจสอบปรากฏว่าไม่มีโรงสุราชุมชนแห่งใดมีแรงม้าเกินเลยสักโรง ทางกระทรวงการคลังจะต้องเล่นงานกรมสรรพสามิตอย่างแน่นอน

หนทางเดียวที่จะรอดจากวิกฤติครั้งนี้ นั่นคือผู้ผลิตสุรากลั่นชุมชนจะต้องรวมตัวกันแสดงพลังและเข้าไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากหัวหน้า คสช. และมิใช่ไปเพียงคนสองคน เพราะผลการยื่นหนังสือด้วยคนเพียงสองคนเป็นอย่างไร เราเคยรายงานในเว็บนี้มาแล้ว

https://surathai.wordpress.com/2014/09/22/submit-complaint/

https://surathai.wordpress.com/2014/11/22/never-win/

นอกจากนั้นผู้ผลิตทั้งหลายต้องขจัดความกลัว ต้องยอมออกมาแสดงตนให้โลกเห็น ที่ผ่านมาหลายคนอาศัยติดขบวนรถที่ตัวเองไม่ต้องขับ ปล่อยให้ผู้กล้าบางคน หรือไม่ก็เลขาธิการสมาพันธุ์สุราชุมชน (ซึ่งก็ตั้งชื่อเอาเองโดยไม่ได้จดทะเบียนอันใด) เป็นผู้ออกหน้าไปเรียกร้องกับรัฐบาล ถ้าเกิดผลดีอันใดก็ได้รับอานิสงค์ไปด้วย ส่วนหากเกิดผลร้ายก็จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบไปด้วย เช่นเกรงจะถูกเจ้าหน้าที่เพ่งเล็ง สรรพสามิตอาจจะเข้ามาตรวจสอบโรงเหล้าให้เกิดความวุ่นวาย

แต่ครั้งนี้ผู้ผลิตจะต้องออกโรงเอง ผู้ที่ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียย่อมไม่มีสิทธิไปช่วยท่านเรียกร้องอันใด นอกเสียจากช่วยเป็นที่ปรึกษา และช่วยร่างหนังสือร้องเรียน ซึ่งแอดมินเว็บสุราไทยได้ร่างให้เรียบร้อยแล้ว

หากผู้ได้รับความเดือดร้อนจักอยู่นิ่งเฉย นั่งๆ นอนๆ รอวันที่จะถูกสั่งปิดโรงงาน ผู้ที่เอาใจช่วยอยู่วงนอก ก็คงได้แต่แสดงความเสียใจ

4 comments

  1. […] ค่ายเบียร์ยักษ์ใหญ่ในประเทศไทยในขณะนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากคราฟต์เบียร์ แต่ขอให้ดูตัวอย่างสุรากลั่นชุมชน ซึ่งเมื่อได้รับอนุญาตให้ผลิตและจำหน่ายโดยเสียภาษีสรรพสามิตอย่างถูกต้อง ทำให้เกิดผู้ผลิตขึ้นจำนวนเกือบสี่พันรายทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ ปัจจุบันจากกรมสรรพสามิต) และในบางท้องถิ่น สุราจากโรงงานสุราไม่สามารถเข้าถึงตลาดได้เพราะมีสุราชุมชนยึดครองพื้นที่อยู่ ทำให้บริษัทใหญ่ได้รับผลกระทบและกำลังเริ่มกวาดล้างสุราชุมชน จากเหตุการณ์ที่เรากำลังพบเห็นดังที่เว็บสุราไทยได้รายงานในบทความก่อนหน้านี้ และเจ้าของสุรารายใหญ่ที่สุดของไทย ก็เป็นเจ้าของเบียร์ที่มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเช่นกัน ย่อมไม่ยอมให้เกิดธุรกิจคราฟต์เบียร์ขึ้นเป็นแน่แท้ […]

    Like

Leave a comment